วิธีสร้าง Passive Income ด้วยการลงทุนในหุ้นแบบ DCA

วิธีสร้าง Passive Income ด้วยการลงทุนในหุ้นแบบ DCA

การสร้างรายได้แบบ Passive Income ถือเป็นเป้าหมายที่หลายคนใฝ่ฝัน เพราะเป็นการสร้างรายได้โดยไม่ต้องทำงานหนักตลอดเวลา หนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับการสร้าง Passive Income คือการลงทุนในหุ้น โดยเฉพาะการลงทุนแบบเฉลี่ยต้นทุนเป็นดอลลาร์หรือ Dollar Cost Averaging (DCA)

DCA เป็นกลยุทธ์การลงทุนที่ช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด โดยการลงทุนจำนวนเงินที่เท่ากันในระยะเวลาที่กำหนด ไม่ว่าจะเป็นรายเดือน รายไตรมาส หรือรายปี การลงทุนอย่างสม่ำเสมอนี้ช่วยให้นักลงทุนไม่ต้องกังวลกับการพยายามคาดการณ์ราคาหุ้นที่ดีที่สุดในการซื้อ ซึ่งอาจทำให้เครียดและตัดสินใจผิดพลาดได้

ในบทความนี้ จะพาคุณไปรู้จักกับวิธีการสร้าง Passive Income ด้วยการลงทุนในหุ้นแบบ DCA ตั้งแต่ขั้นตอนการเริ่มต้นลงทุน ข้อดีและข้อจำกัดของวิธีนี้ และเคล็ดลับในการเลือกหุ้นพื้นฐานดี เพื่อให้คุณสามารถสร้างความมั่งคั่งในระยะยาวได้อย่างมั่นคงและปลอดภัย

การลงทุนด้วย DCAคืออะไร ? สร้างPassive incomeได้อย่างไร?

การลงทุนแบบ DCA หรือ Dollar-Cost Averaging เป็นกลยุทธ์การลงทุนแบบถัวเฉลี่ยหรือจำนวนหน่วยลงทุนเท่ากันในช่วงเวลาที่กำหนด เช่น ลงทุนเดือนละ 1,000 บาท หรือซื้อหน่วยลงทุนจำนวนเท่ากันทุกเดือน โดยไม่ว่าราคาซื้อขายหรือสถานการณ์ในตลาดลงทุนจะเป็นอย่างไร

การลงทุนแบบ DCA ช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดได้ โดยนักลงทุนจะได้ซื้อสินทรัพย์การลงทุนในราคาต่างกันตามช่วงเวลาที่ซื้อ แต่เมื่อคำนึงถึงถัวเฉลี่ยทั้งหมด จะช่วยลดต้นทุนการลงทุนลงไปได้ ทั้งยังมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่มีประสิทธิภาพสูงได้

DCA สร้าง Passive Income ได้อย่างไร

  1. การสร้างความมั่นคงในการลงทุน: DCA เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยสร้างความมั่นคงในการลงทุน โดยนักลงทุนไม่จำเป็นต้องจับจังหวะตลาด ซึ่งลดความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการตัดสินใจที่ผิดพลาด
  2. การสะสมทรัพย์สินในระยะยาว: การลงทุนแบบ DCA จะช่วยให้นักลงทุนสามารถสะสมหลักทรัพย์หรือสินทรัพย์ที่มีคุณค่าได้อย่างต่อเนื่อง การสะสมเหล่านี้สามารถสร้างรายได้แบบ Passive Income ผ่านการปันผลจากหุ้นหรือกองทุนที่ลงทุน
  3. การลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด: การลงทุนแบบ DCA ช่วยกระจายความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด โดยการซื้อหลักทรัพย์ในราคาที่หลากหลาย ซึ่งช่วยลดโอกาสที่จะขาดทุนหนักในช่วงที่ตลาดตกต่ำ
  4. เหมาะสำหรับนักลงทุนทุกระดับ: DCA เป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสำหรับนักลงทุนทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนมือใหม่หรือนักลงทุนที่มีประสบการณ์ การลงทุนแบบนี้ช่วยให้นักลงทุนมีความเป็นระบบและมีวินัยในการลงทุน

ตัวอย่างการ DCA เดือนละ 1,000 บาท

การทำ DCA เป็นกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นเรื่องของ “ราคา” แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ “คุณภาพของหลักทรัพย์” ที่เราลงทุน เพราะถ้าเลือกหุ้นที่ไม่มีคุณภาพ เราอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่คาดหวัง ดังนั้น ควรกระจายความเสี่ยงด้วยการลงทุนในหุ้นที่ผ่านการศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด และคาดว่าจะมีการเติบโตที่ดี มีความมั่นคง และไม่ผันผวนมากเกินไป การเลือกหุ้นคุณภาพ 4-5 ตัวจาก SET100 เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการลงทุน ค่อยๆ ทยอยซื้อหลักทรัพย์ไปเลื่อยๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องราคาหุ้นที่ขึ้นหรือลงในระยะสั้น

เริ่มต้นการลงทุนแบบ DCA

1.สำรวจความสามารถในการลงทุน

  • ประเมินรายได้และค่าใช้จ่ายของคุณ: เริ่มต้นด้วยการทำบันทึกรายได้ทั้งหมดที่คุณได้รับในแต่ละเดือน รวมถึงรายได้จากแหล่งอื่น ๆ ที่มีความต่อเนื่อง จากนั้นให้ประเมินค่าใช้จ่ายรายเดือน เช่น ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าน้ำค่าไฟ ค่าผ่อนรถ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่จำเป็น
  • กำหนดจำนวนเงินที่สามารถลงทุนได้ในแต่ละเดือน: เมื่อคุณทราบรายได้และค่าใช้จ่ายของคุณแล้ว ให้คำนวณส่วนที่เหลือ ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่คุณสามารถจัดสรรเพื่อลงทุนได้ ควรเป็นจำนวนที่ไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของคุณ

2. กำหนดเงินลงทุนแต่ละเดือน

  • ตัดสินใจว่าจะลงทุนเป็นจำนวนเงินเท่าไรในแต่ละเดือน: เลือกจำนวนเงินที่คุณสามารถลงทุนได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว จำนวนนี้ควรเป็นเงินที่คุณสามารถจัดสรรได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการเงินของคุณ หากคุณมีรายได้ไม่แน่นอน ควรเลือกจำนวนเงินที่ต่ำกว่าที่คุณคิดว่าสามารถลงทุนได้ในเดือนที่รายได้ต่ำที่สุด

3. เลือกช่วงเวลาที่จะ DCA

  • ตัดสินใจว่าจะลงทุนในช่วงเวลาใด: เลือกวันที่คุณจะทำการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ เช่น ทุกวันที่ 1 ของเดือน ทุกวันศุกร์ หรือทุกสามเดือน การเลือกวันที่แน่นอนจะช่วยให้คุณมีวินัยในการลงทุน
  • สำหรับมนุษย์เงินเดือน: แนะนำให้เลือกช่วงสิ้นเดือนหลังจากเงินเดือนออก โดยตั้งการตัดเงินลงทุนอัตโนมัติจากบัญชีเงินเดือน การตั้งค่าการตัดเงินอัตโนมัติจะช่วยให้คุณไม่พลาดการลงทุน และสามารถลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง

4. เลือกหลักทรัพย์ที่ต้องการลงทุน

  • ตัดสินใจว่าจะลงทุนในอะไร: คุณสามารถเลือกลงทุนในหุ้น กองทุนรวม หรือสินทรัพย์อื่น ๆ ขึ้นอยู่กับเป้าหมายการลงทุนและความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้
  • ศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนว่าหลักทรัพย์นั้น ๆ มีพื้นฐานดีหรือมีโอกาสเติบโตแค่ไหน: การศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทหรือกองทุนที่คุณจะลงทุนเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้มั่นใจว่าหลักทรัพย์นั้นมีพื้นฐานดีและมีโอกาสเติบโตในอนาคต
  • คุณอาจเลือกกระจายความเสี่ยงโดยการลงทุน DCA ก้อนเล็ก ๆ ในหลาย ๆ สินทรัพย์: การกระจายการลงทุนในหลายสินทรัพย์จะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนที่หลากหลาย

เคล็ดลับในการเลือกหุ้นพื้นฐานดีเพื่อ DCA

การเลือกหุ้นพื้นฐานดีมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการลงทุนแบบ DCA เพราะหุ้นพื้นฐานดีไม่เพียงแต่ให้โอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุนด้วย การเลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งจะทำให้คุณมั่นใจได้ว่าบริษัทนั้นมีศักยภาพในการเติบโต และสามารถสร้างผลตอบแทนให้คุณได้อย่างมั่นคง

เมื่อใช้กลยุทธ์ DCA การลงทุนในหุ้นพื้นฐานดีจะช่วยให้คุณสามารถรับประโยชน์จากการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ และลดผลกระทบจากความผันผวนของตลาดได้ หุ้นพื้นฐานดีมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวได้เร็วและมีเสถียรภาพมากกว่าในช่วงที่ตลาดมีความผันผวน นอกจากนี้ การลงทุนในหุ้นพื้นฐานดียังช่วยให้คุณสามารถสะสมทรัพย์สินที่มีมูลค่าและสร้างรายได้แบบ Passive Income ได้อย่างต่อเนื่อง

การเลือกหุ้นพื้นฐานดีจึงเป็นกุญแจสำคัญในการใช้กลยุทธ์ DCA ให้ประสบความสำเร็จ โดยทำให้คุณมั่นใจได้ว่าการลงทุนในระยะยาวจะนำมาซึ่งผลตอบแทนที่คุ้มค่าและยั่งยืน เช่น

1. เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ค้นหาบริษัทที่มีประวัติการเติบโตที่เสถียร โดยมองไปย้อนหลังอย่างน้อย 3 ปีเพื่อให้แน่ใจว่าบริษัทมีความเป็นไปได้ในการเติบโตในอนาคตอย่างต่อเนื่อง บริษัทที่มีการเติบโตของรายได้และกำไรสุทธิในช่วงที่ผ่านมาเป็นสิ่งที่ควรพิจารณาอย่างยิ่ง เพราะสะท้อนถึงความสามารถในการขยายธุรกิจและการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ บริษัทที่เติบโตอย่างต่อเนื่องมักจะมีศักยภาพในการนำพาธุรกิจไปสู่ความสำเร็จในอนาคต

2. กำไรสม่ำเสมอ
ตรวจสอบว่าบริษัทมีการทำกำไรต่อเนื่องและสม่ำเสมอ โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่ขึ้นๆ ลงๆ ตามสถานการณ์ตลาด การมีกำไรสะสมที่แข็งแกร่งเป็นสิ่งสำคัญ เพราะหมายถึงบริษัทมีความสามารถในการสร้างรายได้ที่มั่นคง ไม่ว่าจะเป็นในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนหรือไม่ การมีกำไรสม่ำเสมอแสดงถึงการจัดการที่ดีและการมีสินค้าหรือบริการที่มีความต้องการอย่างต่อเนื่อง

3. มีความสามารถในการแข่งขัน
ค้นหาบริษัทที่มีจุดแข็งทางธุรกิจชัดเจน เช่น การมีนวัตกรรมใหม่ๆ หรือการควบคุมตัวตนในกระบวนการผลิต บริษัทที่มีความสามารถในการแข่งขันสูงมักจะมีผลิตภัณฑ์หรือบริการที่แตกต่างจากคู่แข่ง และสามารถรักษาหรือต่อยอดตลาดของตนได้ดี การมีจุดแข็งเช่นนี้ช่วยให้บริษัทสามารถเติบโตและสร้างผลตอบแทนได้ในระยะยาว

4. หนี้ไม่สูง
ตรวจสอบอัตราส่วนหนี้ต่อทุนของบริษัทว่าไม่สูงเกินไป เพื่อความมั่นคงของการเงินของบริษัท การที่บริษัทมีหนี้ไม่สูงแสดงถึงความสามารถในการบริหารจัดการการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีความเสี่ยงทางการเงินต่ำ การที่บริษัทมีหนี้ต่ำยังช่วยให้มีความยืดหยุ่นในการลงทุนและขยายธุรกิจในอนาคต

5. บริหารงานโปร่งใส:
ค้นหาบริษัทที่มีการบริหารงานโปร่งใสและมีความโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจ การที่บริษัทมีการบริหารงานโปร่งใสหมายถึงการมีระบบการจัดการที่ดี และมีความซื่อสัตย์ในการดำเนินธุรกิจ การที่บริษัทมีการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินและข้อมูลอื่น ๆ อย่างครบถ้วนและถูกต้องจะช่วยให้นักลงทุนมีความมั่นใจในการลงทุนและสามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง

6. ต้องการในตลาดเป้าหมาย:
ประเมินว่าผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัทยังเป็นที่ต้องการในตลาดในอีก 10 ปีข้างหน้าหรือไม่ การที่ผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัทยังเป็นที่ต้องการในอนาคตแสดงถึงศักยภาพในการสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง การที่บริษัทสามารถปรับตัวและพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการให้ตอบสนองความต้องการของตลาดได้ดีจะช่วยให้บริษัทสามารถรักษาตลาดและเติบโตได้ในระยะยาว

DCA เหมาะกับใคร?

การลงทุนแบบ DCA (Dollar Cost Averaging: DCA) เป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสำหรับนักลงทุนหลายกลุ่ม โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการลดความเสี่ยงและสร้างรายได้ในระยะยาว กลุ่มคนที่เหมาะสมกับการลงทุนแบบ DCA เช่น

  • นักลงทุนมือใหม่: สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นลงทุนและยังไม่มีความรู้หรือประสบการณ์มาก DCA เป็นวิธีที่ง่ายและปลอดภัย ช่วยลดความเสี่ยงจากการพยายามจับจังหวะตลาด
  • ผู้ที่มีรายได้ประจำ: ผู้ที่มีรายได้ประจำและสามารถจัดสรรเงินบางส่วนในแต่ละเดือนเพื่อการลงทุน เช่น มนุษย์เงินเดือนหรือผู้ที่มีรายได้สม่ำเสมอ การลงทุนแบบ DCA ช่วยให้พวกเขาสามารถสร้างพอร์ตการลงทุนได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องใช้เงินก้อนใหญ่
  • ผู้ที่ต้องการลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด: นักลงทุนที่ต้องการลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด DCA ช่วยกระจายการลงทุนในช่วงเวลาต่าง ๆ ซึ่งลดความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการลงทุนในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง
  • ผู้ที่ไม่มีเวลาติดตามตลาด: สำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาหรือต้องการลงทุนโดยไม่ต้องติดตามตลาดอย่างใกล้ชิด DCA ช่วยให้พวกเขาสามารถลงทุนได้อย่างสม่ำเสมอโดยไม่ต้องกังวลกับการจับจังหวะตลาด
  • นักลงทุนที่ต้องการสร้างรายได้ในระยะยาว: ผู้ที่มีเป้าหมายในการสร้างความมั่งคั่งในระยะยาวและพร้อมที่จะลงทุนอย่างต่อเนื่อง DCA เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้พวกเขาสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวได้ โดยใช้ประโยชน์จากการทบต้นของผลตอบแทนและการสะสมหุ้นในช่วงราคาต่าง ๆ

ข้อดี – ข้อควรระวังของการลงทุนแบบ DCA

ข้อดี

  • เงินน้อยก็เริ่มลงทุนได้: การลงทุนแบบ DCA ใช้เงินลงทุนในแต่ละเดือนไม่มาก เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีเงินลงทุนตั้งต้นไม่มาก ต้องการสะสมหุ้นเพื่อให้เงินทำงาน และได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าการฝากเงินไว้เฉย ๆ
  • ไม่ต้องติดตามข่าวหรือราคาหุ้นในตลาดมากนัก: ถึงจะเป็นมนุษย์เงินเดือนหรือเจ้าของธุรกิจส่วนตัว ก็สามารถลงทุนได้ โดยไม่กระทบกับงานที่ทำอยู่ แต่อาจต้องใช้เวลาและพิถีพิถันในการเลือกหุ้นพื้นฐานดีในตอนแรก จากนั้นก็แค่คอยติดตามข่าวสารอยู่ห่าง ๆ เผื่อมีเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้หุ้นที่เลือกลงทุนมีปัจจัยพื้นฐานเปลี่ยนแปลงไป
  • ได้ผลตอบแทนดีกว่าในช่วงราคาหุ้นขาลง: การใช้เงินลงทุนเท่าเดิม แต่ได้จำนวนหุ้นมากขึ้นในช่วงราคาหุ้นขาลง ช่วยลดการขาดทุนหนัก ๆ ได้หากราคาหุ้นปรับตัวลงอย่างรุนแรง

ข้อควรระวัง

  • ต้องมีวินัยและต่อเนื่อง: นักลงทุนต้องมีวินัยและต่อเนื่องในการจัดสรรเงินลงทุนในแต่ละเดือนให้ได้อย่างสม่ำเสมอ
  • ในช่วงราคาหุ้นขาขึ้น ได้ผลตอบแทนน้อยกว่า: ในช่วงราคาหุ้นขาขึ้น การใช้วิธี DCA อาจได้ผลตอบแทนน้อยกว่าการซื้อหุ้นด้วยเงินก้อนในครั้งเดียว

สรุป

การสร้าง Passive Income ด้วยการลงทุนในหุ้นแบบ DCA เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด การลงทุนแบบ DCA ช่วยให้นักลงทุนสามารถสะสมหุ้นในระยะยาวโดยไม่ต้องกังวลกับการจับจังหวะตลาด การเลือกหุ้นที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยให้พอร์ตการลงทุนเติบโตอย่างมั่นคงและสร้างผลตอบแทนในระยะยาว นักลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลพื้นฐานของหุ้นที่ต้องการลงทุน เช่น การเติบโตของบริษัท กำไรสม่ำเสมอ ความสามารถในการแข่งขัน หนี้สินต่ำ การบริหารงานโปร่งใส และความต้องการในตลาดในอนาคต

ด้วยการลงทุนแบบ DCA นักลงทุนสามารถกำหนดจำนวนเงินลงทุนในแต่ละเดือนและซื้อหุ้นอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่ตลาดขึ้นหรือลง การทำเช่นนี้จะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว การลงทุนแบบ DCA เหมาะสำหรับนักลงทุนทุกระดับ โดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้ประจำและต้องการลงทุนอย่างเป็นระบบและปลอดภัย การลงทุนในหุ้นด้วยวิธีนี้เป็นทางเลือกที่ดีในการสร้าง Passive Income ที่มั่นคงและยั่งยืนในอนาคต

Reference

https://www.setinvestnow.com/th/knowledge/article/233-investhow-passive-income

https://www.innovestx.co.th/knowledge-hub/detail/passiveincome/tips-to-generate-passive-income-with-dca

https://www.coinbase.com/learn/crypto-basics/what-is-dollar-cost-averaging-dca

https://www.setinvestnow.com/th/knowledge/article/91-tsi-investing-in-stocks-with-dca-strategy

https://www.innovestx.co.th/knowledge-hub/detail/passiveincome/dca-2

https://krungthai.com/th/financial-partner/learn-financial/1221

https://www.mitrade.com/th/insights/shares/investing-tips/investing-dca

https://www.innovestx.co.th/knowledge-hub/detail/investment-by-asset/stock-vs-mutualfund

https://th.trade.z.com/content-detail?id=howto_choose

https://www.daolinvestment.co.th/articles/investment-knowledge/6-methods

https://n26.com/en-eu/blog/what-are-stocks

https://easysunday.com/blog/what-is-dca/

https://th.trade.z.com/content-detail?id=DCA_Backtesting_zcom